การกำหนดกลุ่มเป้าหมายโฆษณา Facebook ปี 2025
- winachavee1999
- 7 วันที่ผ่านมา
- ยาว 2 นาที

การกำหนดกลุ่มเป้าหมายโฆษณาบน Facebook มีหลากหลายวิธีและตัวเลือกที่ช่วยให้ผู้ลงโฆษณาสามารถเข้าถึงลูกค้าเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างกลุ่มผู้ชมจากข้อมูลประชากร ความสนใจ พฤติกรรม หรือแม้กระทั่งการมีส่วนร่วมกับเนื้อหาบนแพลตฟอร์ม อย่างไรก็ตาม ยังมีความไม่ชัดเจนอยู่บ้างว่า Meta ใช้เกณฑ์ใดในการวิเคราะห์และจำแนกคุณลักษณะเหล่านี้สำหรับผู้ใช้แต่ละราย
ในบทความนี้ เราจะพาคุณเจาะลึกกระบวนการที่ Facebook ใช้ในการจัดกลุ่มผู้ใช้งาน พร้อมทั้งแนะนำทุกวิธีในการกำหนดกลุ่มเป้าหมายโฆษณาที่คุณสามารถใช้ได้บนแพลตฟอร์มของ Meta
ประเภทของการกำหนดกลุ่มเป้าหมายโฆษณาบน Facebook
Facebook มีตัวเลือกในการกำหนดกลุ่มเป้าหมายโฆษณาหลักอยู่ 3 ประเภท โดยแต่ละประเภทมีแหล่งที่มาข้อมูลที่แตกต่างกัน รวมถึงมีแนวทางในการนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์กับธุรกิจของคุณอย่างชัดเจน ซึ่งเราจะพาไปทำความรู้จักในแต่ละแบบเพื่อให้คุณสามารถเลือกใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
1.ตัวเลือกกำหนดเป้าหมายแบบละเอียด (Detailed Targeting) บน Facebook หนึ่งในเครื่องมือสำคัญของการยิงโฆษณาบน Facebook คือ การกำหนดเป้าหมายแบบละเอียด (Detailed Targeting) ซึ่งช่วยให้คุณเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ตรงจุดที่สุด โดยแบ่งออกเป็น 4 หมวดหลัก ดังนี้:
1.1 อายุและเพศ (Age and Gender)
คุณสามารถระบุช่วงอายุแบบเจาะจงเป็นปีได้ และเลือกเพศของกลุ่มเป้าหมายว่าจะเป็น ชาย, หญิง หรือ ทุกเพศข้อมูลเหล่านี้มาจากตอนที่ผู้ใช้งานสมัครบัญชี Facebook
ซึ่งแม้จะไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่โดยรวมแล้วถือว่าค่อนข้างน่าเชื่อถือ

1.2 ข้อมูลประชากร (Demographics)
นอกเหนือจากอายุและเพศแล้ว Facebook ยังเปิดให้เจาะลึกถึงรายละเอียดอื่น ๆ เช่น
ระดับการศึกษา
สถานภาพการเป็นพ่อแม่
ตำแหน่งงานและอุตสาหกรรมที่ทำงานอยู่
บางส่วนมาจากข้อมูลที่ผู้ใช้ระบุเอง และบางส่วนได้จากการวิเคราะห์พฤติกรรม บนแพลตฟอร์มของ Facebook เอง
1.3 ความสนใจ (Interests)
หมวดนี้ช่วยให้คุณเข้าถึงผู้ใช้ที่แสดงความสนใจในหัวข้อต่าง ๆ จากการมีส่วนร่วมกับเพจ, โพสต์, อีเวนต์ หรือเนื้อหาที่เกี่ยวข้องตัวอย่างเช่น ถ้าผู้ใช้กดไลก์เพจเกี่ยวกับ ท่องเที่ยว, ฟิตเนส, หรือ ธุรกิจออนไลน์ ระบบก็จะจัดให้อยู่ในกลุ่มความสนใจนั้น

💡 เคล็ดลับ: แทนที่จะเลื่อนหาในเมนู ลองพิมพ์คำค้นที่คุณคาดว่ากลุ่มเป้าหมายสนใจ เช่น “เดินป่า” หรือ “hiking” ระบบจะแสดงคำที่เกี่ยวข้องทั้งจากหมวดหลักและหมวดย่อยที่คุณอาจไม่เคยรู้ว่ามีอยู่ด้วย
1.4 พฤติกรรม (Behaviors)
หมวดนี้ช่วยให้คุณเข้าถึงผู้ใช้จาก พฤติกรรมการใช้งาน, ลักษณะการซื้อ, อุปกรณ์ที่ใช้, หรือแม้แต่ ความตั้งใจในการซื้อข้อมูลในหมวดนี้ค่อนข้างหลากหลาย เช่น:
ผู้เริ่มต้นทำธุรกิจ
คนที่สนใจเกม
วิธีการชำระเงินที่ใช้บ่อยใน Facebook/Instagram Shop
พฤติกรรมการเดินทาง

🔍 แนะนำ: ลองสำรวจเมนูในหมวดนี้ หรือใช้คำค้นที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมเฉพาะของกลุ่มเป้าหมายที่คุณต้องการ เช่น “นักเดินทางบ่อย” หรือ “ผู้ใช้ iOS”
การตั้งค่า Detailed Targeting อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้คุณเจาะจงกลุ่มเป้าหมายได้ตรงใจมากขึ้น ประหยัดงบ และเพิ่มโอกาสในการเปลี่ยนผู้ชมให้กลายเป็นลูกค้า
หากคุณเริ่มต้น ลองใช้วิธี พิมพ์คำค้น และทดลองหลายตัวเลือกดู แล้ววิเคราะห์ผลเพื่อปรับให้แม่นยำยิ่งขึ้นในรอบต่อไป
2.การกำหนดกลุ่มเป้าหมายลักษณะคล้าย (Lookalike Audience) Lookalike Audience หรือ “กลุ่มเป้าหมายลักษณะคล้าย” ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ทรงพลังของการทำโฆษณาบน Facebook ที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน แม้ว่าปัจจุบันจะมีตัวเลือกใหม่อย่าง Advantage+ Audience เข้ามา แต่ Lookalike ก็ยังคงมีบทบาทสำคัญในแคมเปญจำนวนมาก

Lookalike Audience คืออะไร?
คือการให้ Facebook ช่วยค้นหาผู้ใช้ที่ “คล้าย” กับกลุ่มลูกค้าหรือผู้ติดตามเดิมของคุณ โดยอิงจากข้อมูลของ กลุ่มต้นแบบ (Source Audience) ที่คุณกำหนดไว้ เช่น
รายชื่ออีเมลลูกค้า
ผู้ที่เคยเข้าชมเว็บไซต์
ผู้ที่เคยมีส่วนร่วมกับเพจหรือโพสต์ของคุณ
เมื่อคุณตั้งค่า Source Audience แล้ว Facebook จะวิเคราะห์พฤติกรรม ความสนใจ และข้อมูลต่าง ๆ เพื่อสร้างกลุ่มผู้ใช้งานใหม่ที่มีลักษณะใกล้เคียงที่สุดกับกลุ่มต้นแบบนั้น

วิธีการตั้งค่า Lookalike Audience
เริ่มต้นด้วยการสร้าง Source Audience จาก Custom Audience ที่คุณมีอยู่
เลือกประเทศ ที่คุณต้องการให้ Facebook หา “กลุ่มเป้าหมายลักษณะคล้าย”
กำหนดระดับความใกล้เคียง (เป็นเปอร์เซ็นต์) เช่น
1% หมายถึงกลุ่มคนที่คล้ายกับกลุ่มต้นแบบที่สุด (กลุ่มเล็กแต่แม่นยำ)
หากต้องการขยายกลุ่มเป้าหมายออกไป สามารถเพิ่มเป็น 2%, 3% หรือมากกว่านั้นได้
ข้อควรรู้ก่อนใช้ Lookalike Audience
กลุ่ม Source Audience ควรมีอย่างน้อย 100 คนในประเทศเดียวกัน
แนะนำให้มีจำนวน 1,000 – 5,000 คนขึ้นไป เพื่อให้ระบบสามารถวิเคราะห์และสร้างกลุ่มเป้าหมายที่แม่นยำยิ่งขึ้น
ยิ่งข้อมูลของ Source Audience มีคุณภาพ (เช่น ลูกค้าที่เคยซื้อจริง) ผลลัพธ์ของ Lookalike ก็ยิ่งน่าเชื่อถือ

Lookalike Audience คือเครื่องมืออันทรงพลังที่ช่วยให้คุณขยายกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการหาผู้มุ่งหวังรายใหม่ที่มีแนวโน้มจะกลายเป็นลูกค้า เช่นเดียวกับกลุ่มที่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับคุณมาแล้ว
หากคุณมีฐานลูกค้าหรือข้อมูลผู้สนใจอยู่แล้ว ลองเริ่มต้นสร้าง Lookalike Audience เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ ที่ใช่ในแบบที่คุณต้องการ
3.Meta Advantage+ Audience
Meta Advantage+ Audience คือเครื่องมือใหม่ที่ใช้ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ Machine Learning ของ Facebook เพื่อช่วยคุณค้นหากลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสมที่สุด โดยอัตโนมัติ
เรียกได้ว่าเป็นเวอร์ชันอัปเกรดของการยิงโฆษณาแบบ Broad Targeting ที่หลายคนคุ้นเคย แต่มีความแม่นยำและชาญฉลาดมากกว่าเดิม

ระบบทำงานอย่างไร?
Meta Advantage+ จะวิเคราะห์ข้อมูลหลากหลายแหล่ง เช่น
พฤติกรรมการแปลง (Conversion) ที่เคยเกิดขึ้นในแคมเปญก่อนหน้า
ข้อมูลจาก Facebook Pixel บนเว็บไซต์ของคุณ
การโต้ตอบกับโฆษณาทั้งของคุณและของผู้ลงโฆษณารายอื่นบนแพลตฟอร์ม
จากนั้นระบบจะเลือกกลุ่มเป้าหมายที่ “มีแนวโน้ม” สูงที่สุดในการทำให้เกิดผลลัพธ์ที่คุณต้องการ เช่น คลิก, สมัครสมาชิก หรือสั่งซื้อสินค้า มีตัวเลือกแนะนำกลุ่มเป้าหมายเบื้องต้น (Optional)
คุณสามารถเพิ่ม “ข้อเสนอแนะกลุ่มเป้าหมาย” (Audience Suggestions) ได้ เช่น อายุ, ความสนใจ, สถานที่ ฯลฯ
ซึ่งระบบจะใช้ข้อมูลเหล่านี้เป็นจุดเริ่มต้นในการเรียนรู้ แต่ในระยะยาว ระบบจะปรับกลุ่มเป้าหมายเองให้กว้างขึ้นตามประสิทธิภาพที่ตรวจพบ
✅ เหมาะสำหรับผู้ที่ ต้องการผลลัพธ์จาก AI โดยไม่ต้องกำหนดทุกอย่างเอง
⚠️ หากคุณต้องการควบคุมกลุ่มเป้าหมายแบบแม่นยำและเฉพาะเจาะจง อาจรู้สึกว่า Meta Advantage+ ควบคุมได้น้อยกว่าแบบเดิม
ข้อดีของ Meta Advantage+ Audience
ลดขั้นตอนการตั้งค่าที่ซับซ้อน
เหมาะกับมือใหม่ หรือผู้ที่ต้องการทดสอบตลาด
ระบบเรียนรู้และปรับปรุงเองตามผลลัพธ์จริง
เหมาะกับแคมเปญที่เน้น Conversion หรือ Performance
Meta Advantage+ Audience คือทางเลือกใหม่ที่เน้น ความสะดวกและประสิทธิภาพ โดยใช้พลังของ AI มาช่วยให้โฆษณาของคุณเข้าถึงคนที่มีแนวโน้มจะตอบสนองได้ดีที่สุด
หากคุณเปิดใจให้ระบบได้เรียนรู้และลองทดสอบ อาจพบว่า ไม่ต้องกำหนดเป้าหมายแบบละเอียดเอง แต่ผลลัพธ์กลับดีกว่าที่คาด
เลือกเครื่องมือให้เหมาะกับกลยุทธ์ เพื่อผลลัพธ์ที่คุ้มค่า ไม่ว่าคุณจะเป็นนักการตลาดมือใหม่ หรือผู้เชี่ยวชาญที่คลุกคลีกับโฆษณา Facebook มานาน การเข้าใจและเลือกใช้เครื่องมือกำหนดกลุ่มเป้าหมายอย่างถูกต้องคือกุญแจสำคัญของความสำเร็จ
ถ้าคุณต้องการ “ยิงแบบแม่นยำ” เข้าถึงคนที่มีลักษณะเฉพาะเจาะจง การใช้ Detailed Targeting ก็ยังคงเป็นทางเลือกที่คุ้มค่า
หากคุณมีข้อมูลลูกค้าอยู่แล้ว และต้องการ “ขยายฐาน” อย่างมีทิศทาง Lookalike Audience คือคำตอบที่ใช้ได้ผลเสมอ
ส่วนใครที่พร้อมเปิดใจให้ระบบช่วยวิเคราะห์เองแบบอัตโนมัติ Meta Advantage+ Audience ก็อาจกลายเป็นตัวเลือกลับที่สร้างผลลัพธ์เกินความคาดหมาย
สุดท้ายแล้ว การยิงแอดไม่ใช่เรื่องของการตั้งค่าครั้งเดียวแล้วหวังผล แต่คือการทดลอง ปรับปรุง และเรียนรู้ตลอดเวลา ลองเปิดพื้นที่ให้ทุกตัวเลือกได้แสดงศักยภาพ แล้วคุณจะรู้ว่า "ข้อมูลดี + กลยุทธ์ชัด" คือการลงทุนที่สร้างผลลัพธ์อย่างยั่งยืน
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.wordstream.com/
Comments